Monday, August 23, 2010

ไปลองชิมบะหมี่ญี่ปุ่นแบบแยกน้ำที่ Yamagishi Ganso Tsukemen, K-Village



วันเสาร์ที่ผ่านมา (21 ส.ค.) ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ตามปกติทุกไตรมาส เสร็จแล้วไปรับเอซึ่งไปช่วยงานที่สภาวิชาชีพบัญชีแถวอโศกประมาณ 11 โมงกว่า เลยตกลงไปเดินที่ K-Village กันเพราะยังไม่เคยไปเลย ขับไปตามสุขุมวิทเรื่อย ๆ เลี้ยวเข้าซอย 26 ไปตามซอยจนเกือบออกพระราม 4 อยู่ติดกันกับคาร์ฟูร์พระราม 4 เลยครับ ถ้าไปก่อนเที่ยง ไม่น่ามีปัญหาเรื่องที่จอดรถ แต่ตอนผมกลับช่วงเกือบบ่าย 2 เห็นรถวนหาที่จอดกันพอสมควรเลยครับ

เคยอ่านในโพสต์ทูเดย์ว่ามีร้านราเมง ที่มีราเมงแบบแยกเส้นมาให้ลอง เดินหาอยู่สักพักก็พบว่าอยู่ชั้นสอง โซนเอ นั่นเอง ชื่อว่า "Yamagishi Ganso Tsukemen"

(ลืมถ่ายภาพหน้าร้าน เลยขอยืมภาพจากเวบของ K-Village มานะครับ)

เดินเข้าไปในร้าน ลูกค้ายังไม่มากเท่าไหร่ พนักงานก็พาไปนั่งที่โต๊ะทันที


(ขอบคุณภาพเมนูจากคุณ St.Gizmo ครับ)

ดูเมนูแล้ว เออยากลอง Tsukemen ก็เลยสั่งดู ส่วนอีกชามของตัวเองเป็นราเมงธรรมดา ช่วงนี้ถ้าสั่งชุดแบบนี้ ขนาดกลางขึ้นไป สามารถเลือกรับข้าวผัด ข้าวหน้าเต้าหู้ทรงเครื่อง หรือว่าไก่ทอดก็ได้ เลือกเอา 1 อย่าง และจะได้ของหวานเป็นถั่วแดงเย็นพร้อมแป้งโมจิด้วย ก็เลยเลือกเอาข้าวผัดกับข้าวเต้าหู้ทรงเครื่องไป

รอไม่นานมาก เจ้า Tsukemen ก็มาถึง (ในภาพอยู่ด้านไกล) จะเป็นชนิดเส้นเย็น มากับน้ำซุปร้อน คีบเส้นไป แล้วก็ซดน้ำตาม น้ำซุปมีไข่ต้มยางมะตูมและชาชูด้วย รสชาติออกเปรี้ยวนำ เอไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ และน้ำซุปก็น้อยเกินไปด้วย ก็ถือว่าลองชิมละกัน ชามกลางราคา 195 บาท

ส่วนราเมงของผมนั้น รสชาติจัดว่าใช้ได้ทีเดียว แต่ราคาออกแพงเล็กน้อย ชามใหญ่ 225 บาท ชาชูมีให้ชิ้นเดียว แต่หน่อไม้กับไข่ต้มก็อร่อยดีครับ

มาว่ากันถึงของแถมบ้าง สำหรับข้าวผัด ไม่แน่ใจว่าผัดกับอะไร เป็นไก่ฉีกหรือปลาฉีกไม่ทราบนะครับ แต่จะออกแห้ง ๆ หน่อย รสชาติผมว่าธรรมดา ส่วนข้าวหน้าเต้าหู้ทรงเครื่อง รสชาติยังไม่กลมกล่อมมาก ตัวหมูสับเนื้อละเอียดเกินไปทำให้ไม่ได้ texture (แหะ ๆ) ส่วนซอสก็รสแปลก ๆ ครับ ทั้ง 2 อย่างทานไม่หมด อาจจะเป็นเพราะอิ่มก็ได้ครับ แต่ของหวานที่เป็นถั่วแดงเย็น อร่อยดี แป้งโมจิก็หนึบดีครับ ถูกใจ

โดยสรุป ตัว Tsukumen นั้น ไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ แต่ถ้าใครชอบเปรี้ยวก็อาจจะถูกใจได้ ส่วนราเมงนั้นรสชาติโอเชเลยทีเดียว เสียตรงที่ราคาค่อนข้างแพงเทียบกับปริมาณของเครื่องเคียงครับ ใครยังไม่เคยลองชิม Tsukemen ก็เชิญไปที่ร้านเพื่อลิ้มลองได้ครับ

Monday, August 16, 2010

เรื่องดี ๆ ของสนามบินสุวรรณภูมิ

สืบเนื่องจากที่ได้ไปเชียงใหม่มา ขากลับโดยเครื่อง Bangkok Airways ได้ลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตอนไปรับกระเป๋า ได้เห็นพัฒนาการในทางที่ดีของสนามบินแห่งชาติของเรา
ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีมานานแล้วหรือยังครับ เพราะไม่ได้ลงที่นี่มา 3 เดือนแล้ว โดยพนักงานได้จัดเอารถเข็นมาจอดไว้ที่ belt เรียงอยู่รอบ ๆ เตรียมไว้ให้ผู้โดยสาร ถือเป็นความคิดที่ดีมากและอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารมากครับ ขอชมเชยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยครับที่มุ่งพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิของเราเพื่อให้ก้าวสู่ Top 5 ต่อไปในอนาคต

"ห้อยเทียนเหลา" อาหารจีนรสชาติถูกปาก ราคาถูกใจ

ช่วงสัปดาห์วันแม่แห่งชาติ (12 ส.ค.53) ได้มีโอกาสกลับบ้านที่เชียงใหม่เพื่อไปกราบคุณแม่ รวมถึงไปเยี่ยมครอบครัวด้วยครับ ได้ไปทานอาหารร้านอร่อย ๆ หลายแห่ง เลยอยากจะขอแนะนำร้านอาหารจีนสักแห่งไว้ เผื่อใครมีโอกาสไปเยือนเชียงใหม่ จะได้ไปเยี่ยมเยียนลองชิมอาหารที่ร้านแห่งนี้ดู

ร้านที่จะแนะนำในวันนี้ชื่อ "ห้อยเทียนเหลา" ครับ ฟังชื่อแล้วอาจจะนึกว่าเป็นภัตตาคารหรูตั้งอยู่ในโรงแรมอะไรทำนองนั้น แต่ไม่ใช่เลยครับ ห้อยเทียนเหลาเป็นร้านอาหารจีนเล็ก ๆ อยู่ริมถนนนี่เองครับ เจ้าของเคยเป็นเชฟร้านอาหารจีนอยู่ที่โรงแรมรอยัล ปรินเซสที่เชียงใหม่นานเป็นสิบ ๆ ปี ดังนั้น รสชาติอาหารจึงมั่นใจได้ครับ และมั่นใจได้เช่นกันในเรื่องราคา เพราะราคาไม่ได้สูงเลย เรา ๆ ท่าน ๆ สามารถไปนั่งกินได้โดยไม่ต้องกลัวกระเป๋าฉีก อย่างอาหารจานเดียวเช่น ข้าวผัด หรือก๋วยเตี๋ยวราดหน้า แบบจานเล็ก ก็ราคาแค่ 40 บาทเท่านั้นเอง ส่วนอาหารจานอื่น ๆ ก็อยู่ในราว 60-80 เท่านั้นครับ

อาหารที่ผมไปทีไรต้องกินทุกครั้งก็ได้แก่ เนื้อกะทะร้อน ออส่วนจานร้อน ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าเนื้อ หรือปลาเต้าซี่ กระเพาะปลาผัดแห้ง และอย่าเผลอทานจนอิ่มแปล้นะครับ เพราะต้องตบท้ายด้วยกะลอจี๊ ขนมโบราณซึ่งหาทานได้ยากในปัจจุบัน เค้าเอาแป้งลงทอดจนข้างนอกกรอก ข้างในนุ่ม โรยหน้าด้วยน้ำตาลผสมงาดำ ต้องทานตอนร้อน ๆ นะครับ อร่อยสุด ๆ

ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนวงแหวนรอบกลางนะครับ ถ้ามาจากเลียบคลองชลประทาน (ตรงตลาดต้นพยอม) ตรงมาเรื่อย ๆ จนถึงสามแยกไฟแดงทางซ้ายมือที่มีลูกศรบอกว่าไปแม่ฮ่องสอน (จริง ๆ ก็คือไปถนนเส้นเชียงใหม่-หางดงนั่นเอง) ก็ให้เลี้ยวซ้ายได้เลยครับ (หากเลยแยกตรงนี้ไปจะเป็นตลาด จำชื่อไม่ได้ แต่ไส้อั่วที่นี่อร่อยดีนะครับ ชื่อไส้อั่วเก๊ามะขาม) เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้าไปแล้ว ตรงไปประมาณ 100-200 เมตร ร้านอยู่ด้านขวามือ เห็นป้ายชื่อร้านสีเหลือง ๆ อยู่ ต้องกลับรถก่อนที่ยูเทิร์นแรก

หากมาจากเซ็นทรัลแอร์พอร์ตอาจจะง่ายกว่าครับ ตรงมาเรื่อย ๆ ทางไปหางดง พอถึงถนนวงแหวนก็เลี้ยวขวาเข้าไป ตรงไปจนถึงเกือบสุดถนน ร้านอยู่ทางซ้ายมือ ถ้าจะไปทานมื้อกลางวัน อย่าไปช้าเกินบ่ายสองนะครับ เพราะเค้าจะปิดพัก แจ้งไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน :-)อย่าลืมไปลองชิมกันนะครับ

Wednesday, August 4, 2010

ดัชนี Big Mac (จาก The Economist)

http://www.economist.com/node/16646178?story_id=16646178

บทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับดัชนี Big Mac หรือ Big Mac Index ซึ่งเป็นตัววัดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกว่า มีค่าสูงกว่า (overvalued) หรือต่ำกว่า (undervalued) อัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นอยู่ตอนนี้ โดยอาศัยทฤษฎีของ Purchasing Power Parity (PPP)

หมายเหตุ อาจจะออกนอกธีมของเราหน่อยนะครับที่เน้นเรื่องกิน เที่ยว แต่เห็นว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่อง "กิน" เหมือนกัน เลยเอามาลงให้อ่านกันเล่น ๆ น่ะครับ

Tuesday, August 3, 2010

ห้องอาหาร L'Avenue โรงแรม Furama XClusive Sathorn




วันนี้ได้ไปทานบุฟเฟต์มื้อกลางวันที่โรงแรม Furama XClusive ที่สาทรมา สนนราคา 199++ บาท อาหารในซุ้มมีมากมายหลากหลายพอสมควร ข้าวเปล่า กับข้าวมี 3-4 อย่าง เช่น ทอดมันกุ้ง หมูอบยอดผัก

ขนมจีนน้ำยา น้ำพริก ข้าวแช่ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง สปาเกตตี ผักขมอบชีส ปลาดิบก็ยังมีครับ แต่ว่าไม่เชิงดิบเท่าไหร่ เพราะบางอย่างก็ลวกมาให้ก่อน ทำนองเป็นซีฟูด เข้าใจว่าอาจจะกลัวไม่สดจริงก็ได้ นอกจากนั้นก็มีปูอัด กุ้งลวก ปลาซาลมอนดิบ รสชาติใช้ได้ครับ ตินิดนึงว่าชิ้นมันเล็กไปหน่อย ทานไม่ค่อยจุใจ แต่ก็ถือว่าโอทีเดียว อ้อ ยังมีข้าวปั้นอีกด้วย มีประมาณ 2-3 แบบ


พวกของทานเล่นก็อย่างเช่น ข้าวตังหน้าตั้ง ยำต่าง ๆ ที่ขาดไม่ได้ก็คือ สลัด แถมยังมีน้ำบริการให้ด้วยคือ น้ำเก็กฮวย กับน้ำกระเจี๊ยบ ไม่ได้ดื่มเองหรอกครับ แต่เพื่อนบอกว่าไม่ค่อยเท่าไหร่

ด้านของหวานก็มีให้เลือกมาก ทั้งลอดช่อง ทับทิมกรอบ วุ้นมะพร้าว น้ำแข็งไส น้ำแดง น้ำเขียว ผลไม้มีแตงโม มะละกอ สับปะรด ไอศกรีมสตรอเบอรี่

สรุปคือ อาหารมีให้เลือกหลากหลายกว่าที่ Ibis สุขุมวิทเยอะเลย สัก 2 เท่ากว่าเห็นจะได้ เห็นว่าเพิ่มเงินจากที่ Ibis อีก 50 บาท (ที่นั่น 149++) ที่นี่ถือว่าน่าสนใจกว่าเยอะครับ


ทางเข้าอาจจะสับสนเล็กน้อยถ้าเข้ามาจากสาทรซอย 6 เข้ามาแล้วจะเป็นบังคับเลี้ยวซ้าย ตรงไปเจอ 3 แยกยังไม่ต้องเลี้ยวนะครับ (ถ้าเลี้ยวไปแล้วต้องออกสีลมเลย) ตรงต่อไปแล้วจึงค่อยเลี้ยวขวา ตรงไปอีกสัก 50 เมตร โรงแรมอยู่ซ้ายมือครับ ชื่อห้องอาหาร L'Avenue อยู่หน้าโรงแรมเลย

แต่ถ้าหากเดินทางด้วยรถ BTS ก็สะดวกไปอีกอย่างนึง ลงที่สถานีช่องนนทรีนะครับ เสร็จแล้วเดินเข้าซอยนราธิวาส 3 ตรงเข้ามาผ่านกวดวิชา Sup'K ทางซ้าย ตรงต่อไปเจอ 3 แยก เลี้ยวขวา ตรงไปอีก 20 เมตร เจอโรงแรมอยู่ทางขวามือ

ถือเป็นทางเลือกอีกทางสำหรับผู้ที่ชอบบุฟเฟต์ราคาไม่แพงครับ...